Rail Journey : Filler Your Life

December 14, 2024 | by Thailand Gastronomy

Share

FILLER YOUR LIFE @ ชะอำ – หัวหิน
เติมความสุขให้ฉ่ำหัวใจ ลบเลือนริ้วรอยในชีวิต

เรื่อง : สุทธิมา เสืองาม

ภาพ : ชาตรี สลีวง และ กฤษฎากร สุขมูล


เมื่อถึงช่วงวัยที่ใบหน้าไม่อาจต้านทานแรงโน้มถ่วง เรายังมีสิทธิ์พึ่งพาเทคโนโลยีให้เราดูดีขึ้น แต่กายกับใจนี่สิ ต้องเติมด้วยอะไรถึงจะฟื้นฟูความสุขกลับมาได้ดังเดิม

ความรัก ความสุข ความสนุก ในวัยเยาว์ คือ สิ่งที่เยียวยาหัวใจอับเฉา เพื่อนวัยเด็กจะช่วยให้โลกสดใสประหนึ่งการฉีด Filler ให้กับชีวิตและจิตใจ เราส่งสัญญาณ S.O.S. (แปลว่า ด่วน) ชวนเพื่อนรู้ใจไปคิกคักรับลมทะเลด้วยกันสัก 2 วัน 1 คืน เป้าหมายอยู่ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราวางแผนท่องเที่ยวด้วยรถไฟ เพื่อรับประสบการณ์ที่ชวนให้เรานึกถึงเรื่องราววัยเด็ก

รถไฟไปหัวหินมีด้วยกันหลายขบวน เราเลือกขบวนที่ทำเวลาได้ดี คือ ขบวน 43 (รถไฟด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี) ซี่งเป็นรถดีเซลรางนั่งปรับอากาศชั้น 2 หรือรถสปรินเตอร์ จะใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง รถไฟออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 7.30 น. แนะนำให้ไปถึงแต่เนิ่น ๆ  เพราะสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นอาคาร Terminal หลังใหญ่ ศูนย์กลางการเชื่อมโยงระบบคมนาคม ระหว่างรถไฟ รถไฟฟ้า MRT และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ถ้าใครไม่เคยมาอาจกังวลว่าจะไปจอดรถตรงไหน ขึ้นไปที่ชานชาลาได้อย่างไร ดังนั้นการเผื่อเวลาสักหน่อยย่อมดีกว่า

การเดินทางไปหัวหินด้วยรถไฟครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การจองตั๋วรถไฟผ่านแอพพลิเคชัน “SRT-D-TICKET” ซึ่งสะดวกมาก ๆ ชานชาลาขึ้นรถไฟก็ใหม่ สถานีปลายทางก็สร้างใหม่ แค่เริ่มต้นออกเดินทางด้วยรถไฟก็ทำให้หัวใจกระดี๊กระด๊าขึ้นมา

หมายเหตุ : ภาพประกอบเรื่องถ่ายในขบวนรถไฟ “ทักษิณารัณย์” ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 16.30 น.)

Day 1

สถานีรถไฟหัวหินหลังใหม่

เวลา 10.36 น. ขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟหัวหินหลังใหม่ ใครที่เคยนั่งรถไฟมาหัวหินสมัยเด็ก ๆ จะต้องร้องว้าวกับประสบการณ์ใหม่ ที่ออกแบบให้เป็นอาคารยกระดับ 3 ชั้นตอบโจทย์การขยายโครงข่ายทางรถไฟไทยและโครงการรถไฟทางคู่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยอาคารยังคงเอกลักษณ์แบบสถานีหัวหินดั้งเดิมในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล เป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำให้รำลึกถึงสถานีหัวหินหลังเก่า ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6

การมาเที่ยวกับเพื่อนที่รู้ใจก็ดีหลายอย่าง เราต่างผลัดกันเป็นนางแบบ ผลัดกันถ่ายรูป ออกจากสถานีหัวหินแล้วไปต่อได้ไม่ยากเลย ตรงข้ามสถานีมีบริการเรียกรถรับส่งที่มีทั้งแท็กซี่ สองแถว วินมอเตอร์ไซต์หน้าสถานีก็มี หรือจะใช้แอพลิเคชั่นเรียกบริการรถเช่าขับเที่ยวเองก็ย่อมได้ แพล็ตฟอร์มจองรถเช่ามีให้เลือกมากมาย ทริปนี้ตั้งใจว่าจะมา Retreat & Relax และ Refill กันโดยเฉพาะ ดังนั้น เรามีเวลามากพอสำหรับความเพลิดเพลิน

Tree House Café Hua Hin

จุดแรกเรามุ่งหน้าไปที่ “Tree House Café Hua Hin” คาเฟ่ร่มครึ้มใต้ต้นไม้ใหญ่ ในพื้นที่แค่ 100 ตารางวาทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายประหนึ่งว่าอยู่ในโอเอซิสใจกลางหัวหิน ที่นี่เสิร์ฟสปาเก็ตตี้ กาแฟ เครื่องดื่มร้อน-เย็น และคราฟต์เบียร์ในสวน เจ้าของบ้านตั้งใจสร้างสวรรค์สีเขียวที่มีสภาพแวดล้อมเย็นสบายตามธรรมชาติ ด้วยการกำหนดทิศทางลม แสงแดด และต้นไม้ ปูพื้นด้วยอิฐทำมือที่เขียวโดยธรรมชาติเพราะตะไคร่จับ เรามัวแต่ชมสวนเพลินจนเกือบจะลืมสั่งเครื่องดื่ม ถึงจะมีเมนูไม่มาก แต่รับรองว่าอร่อยทุกจาน

ถึงจะรองท้องกันมาบ้างแล้ว แต่เราก็มีกระเพาะสำรองสำหรับมื้อกลางวัน เราเลือก อยู่เย็น หัวหิน บัลโคนี่ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมทะเล บรรยากาศชิลล์สบายที่เข้ากันได้ดีกับอาหารทะเลสดใหม่ที่เสิร์ฟ ลองกุ้งย่างและยำมะม่วงรสจัดจ้าน ทุกคำสะท้อนความมีชีวิตชีวาของเมืองริมทะเลได้ดี

Drip Rim Lay

หลังจากมื้อเที่ยงที่อิ่มกันจนพุงกาง เรามุ่งหน้าไปยัง Drip Rim Lay คาเฟ่ริมทะเล แนว Specialty Coffee ตั้งอยู่ที่โรงแรม veranda lodge ซอยหัวหิน 67 ร้านนี้ต้องมาเร็วหน่อย เพราะปิดเวลา 16.00 น.จุดเริ่มต้นของร้านเกิดจากกาแฟดริป แบบ Slow Bar แต่ปัจจุบันก็มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย นอกจากกาแฟดริปขึ้นชื่อของร้านแล้ว เราลองสั่ง Pina Colada Coffee กาแฟน้ำสับปะรด และ Coconut Flower Coffee หรือกาแฟน้ำช่อดอกมะพร้าว มาจิบรับลมทะเล ให้ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ยามทอดสายตาไปไกล ๆ มองคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง รู้สึกได้ถึงความเรียบง่ายที่เติมเต็มความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย 

เย็นวันแรกอยากกินอะไรง่าย ๆ Street Food คือ คำตอบสุดท้าย และตลาดโต้รุ่งหัวหิน คือ คำตอบที่ดีที่สุด เพราะที่นี่เต็มไปด้วยพลังงาน สีสัน ความมีชีวิตชีวา กลิ่นหอมของอาหารยั่วน้ำลายไปตลอดทาง ทั้งหมึกย่าง ผัดไทย หอยทอด โรตีกล้วยหอมโรยด้วยนมข้นหวาน ฯลฯ เมนูธรรมดาที่เราคุ้นชินมาตั้งแต่เด็ก       นี่แหละที่เติมเต็มวันพักผ่อนได้ดี ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครยังคงมาเที่ยวตลาดโต้รุ่งหัวหินกันได้ไม่เคยเบื่อ

หัวหินมีโรงแรมดี ๆ ให้เลือกมากมาย มีโรงแรมในโครงการ STAR (Sustainable Tourism Acceleration Rating) ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็หลายแห่ง แต่ครั้งนี้เราเลือกพักที่ Let’s Sea Hua Hin Al Fresco Resort ที่ตอบรับความสงบเงียบ งดงามของทะเลหัวหินได้ดี โดดเด่นด้วยการออกแบบสระว่ายน้ำกลางรีสอร์ทรูปทรงสีเหลี่ยมผืนผ้า ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ภาพที่เห็นงดงามราวกับผืนฟ้าและพื้นทะเลเป็นแคนวาสผืนใหญ่ สมกับคำว่า Al Fresco ที่หมายถึง กลางแจ้ง ซึ่งกระตุ้นให้เราอยากใช้ชีวิตกลางแจ้งให้บ่อยขึ้น แทนที่จะขลุกอยู่แต่ในบ้าน หรือที่ทำงาน

Day 2

Let’s Sea Hua Hin Al Fresco Resort

ยามเช้าอันแสนสดชื่น เราตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อร่วมคลาสโยคะริมหาด การได้ยืดเส้นยืดสายท่ามกลางเสียงคลื่นและแสงแดดยามเช้าช่วยทำให้จิตใจสงบลง ก่อนจะปรนเปรอตัวเองด้วยอาหารเช้าริมสระ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ที่นี่เสิร์ฟอาหารเช้าแบบ A la Carte เปิดฉากด้วยแชมเปญ ในระหว่างที่รอจานเด็ดมาเสิร์ฟ มีทั้ง ออมเล็ต ข้าวเหนียวหมูย่าง ข้าวต้ม ฯลฯ เครื่องดื่มร้อนเย็นสั่งได้ไม่อั้น

หมู่บ้านศิลปิน หัวหิน

เช็คเอาท์จากโรงแรม ตรงไปยัง หมู่บ้านศิลปิน หัวหิน ก่อตั้งโดย คุณชุมพล ดอนสกุล นักสะสมผลงานศิลปะร่วมกับศิลปิน ทวี เกษางาม เพื่อสนับสนุนให้ศิลปินสาขาต่าง ๆ ได้มีพื้นที่สร้างสรรค์ศิลปะและจัดแสดงผลงานท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ บนพื้นที่ 9 ไร่ ในตำบลหินเหล็กไฟ มีสตูดิโอศิลปิน และแกลเลอรี่ศิลปะในป่าหัวหินฝั่งตะวันตก จัดแสดงผลงานศิลปินชั้นครูที่หาชมได้ยากยิ่ง รวมทั้งผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินปัจจุบัน เราอาจจะทำเวิร์กชอปวาดภาพที่นี่ หรือเดินจิบกาแฟชมงานศิลปะก็สามารถเติมไฟฝันและจินตนาการให้เราได้ ที่นี่ ทำให้เรารู้ว่า ธรรมชาติของป่าเขา ท้องทะเลที่งดงาม และวัฒนธรรมท้องถิ่น สร้างแรงบันดาลใจให้ศิลปินมากเพียงใด

ก่อนกลับ อำลาวันหยุดพักผ่อนที่หัวหินกับมื้อเที่ยงอีกสักมื้อที่บ้านอิสระ หนึ่งในร้านอาหารทะเลเจ้าดังของหัวหินที่เปิดมาเกือบ 30 ปี ที่นี่ ไม่ได้มีดีแค่วิวริมทะเล แต่มีเมนูจานเด็ดขึ้นชื่อ อย่าง ทะเลผัดฉ่า ปูทะเลผัดไข่เค็ม และเมนูที่ได้รับความนิยม นั่นก็คือ หอยตลับผัดซอสโหระพากระทะร้อน 

และแล้วก็ได้เวลาอำลาหัวหิน เราคืนรถเช่าที่หน้าสถานีรถไฟ พาตัวกับหัวใจขึ้นรถไฟขบวน 40 ออกจากสถานีหัวหิน 14.36 น. คาดว่าจะถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไม่เกิน 18.15 น.

Real Experience 

ทริปนี้เป็นการผสมผสานการผ่อนคลาย ระหว่างการลิ้มรสอาหารอร่อย จิบกาแฟในคาเฟ่เก๋ ๆ เดินเล่นตลาดท้องถิ่นที่คึกคัก สู่ทะเลที่สวยงาม หัวหินได้มอบทุกสิ่งที่เราต้องการเพื่อหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมือง แต่สิ่งที่เติมเต็มความสุขในทริปนี้ได้อย่างวิเศษนอกเหนือจากแก๊งเพื่อนรู้ใจวัยเด็ก นั่นก็คือ การเดินทางด้วยรถไฟนั่นเอง

FILLER YOUR LIFE @ ชะอำ – หัวหิน

ตามรอยเส้นทางสายนี้

คาเฟ่

https://maps.app.goo.gl/3h7Bix34tyv5Meja6

https://maps.app.goo.gl/Xusouyogo2QUAEDZA

ร้านอาหาร

โทร.032 508 175, 081 378 3789, 081 378 3798

https://maps.app.goo.gl/RSwJKpQqQw1iRa9J9

https://maps.app.goo.gl/2mNGyi5NyG2nJ9qL7

https://maps.app.goo.gl/g6AEGc6RmqCVGmv2A

สถานที่น่าแวะ

https://maps.app.goo.gl/2mNGyi5NyG2nJ9qL7

https://maps.app.goo.gl/77cF1xFLNiidGZfe6

ที่พัก โรงแรม

https://maps.app.goo.gl/ZoXdU1UqbxVEuGiz6 STAR

https://maps.app.goo.gl/huMHxwHYwNf9nRzGA STAR

Latest Blogs

All Blogs
Blog
May 11, 2025

Gastronomy Tourism Research

เจาะลึกเบื้องหลังทีมวิจัยนักสร้างสรรค์แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงอาหารทั่วไทย ในยุคที่ “อาหาร” คือ “เรื่องเล่า” ที่ส่งต่อความทรงจำ วัฒนธรรม และโอกาส เครือข่ายวัฒนธรรมอาหารประเทศไทย Thailand Gastronomy Network (TGN) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมกันเปิดหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการท่องเที่ยวไทย ผ่านโครงการวิจัยชุดใหญ่ที่ชื่อว่า “แนวทางเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวเชิงอาหาร” งานวิจัยนี้ สำรวจศักยภาพอาหารไทยในฐานะเครื่องมือทรงพลังที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความยั่งยืน เบื้องหลังโครงการวิจัยที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์ คือทีมงานที่ประกอบด้วยนักวิจัยระดับแนวหน้า เชฟ ผู้ออกแบบ นักเล่าเรื่อง และผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่น ที่ร่วมกันตีความ “การท่องเที่ยวเชิงอาหาร” ให้เป็นเครื่องมือสร้างอนาคต โดยลงพื้นที่จริงใน 5 ภูมิภาคของประเทศไทย และร้อยเรียงออกมาเป็นเรื่องเล่าที่ทั้งเข้มข้นเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ Case Study 1 : ภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา – จันทบุรี) Theme: Ecosystem Developmentโดย: ธัญญารัตน์ ดุมกลาง และ กฤษฎากร สุขมูล “สายน้ำ ผืนป่า ศรัทธา” คือหัวใจของจังหวัดฉะเชิงเทราที่ทีมวิจัยใช้เป็นกรณีศึกษา […]

Thailand Gastronomy
Events
January 1, 2025

Gastro Club Event : January 2025

KTC EXCLUSIVE JOURNEY TRIP 9 – 10 January 2025 Bangkok – Phetchaburi เส้นทางสู่มรดกแห่งความหวาน รสชาติเมืองเพชรทริปรถไฟสุดพิเศษ สู่เสนห์เมืองมรดกด้านอาหารของยูเนสโก้ สอบถามรายละเอียดการจัดกิจกรรมพิเศษ EXCLUSIVE JOURNEY TRIP Email : [email protected]

Thailand Gastronomy
Blog
December 19, 2024

Rail Journey : Staycation

STAYCATION @ Khao Taoเที่ยวไป ชิลล์ไป ทำงานไป จากบนรถไฟถึงเขาเต่า เรื่อง : สุทธิมา เสืองาม ภาพ : กฤษฎากร สุขมูล “เส้นทางชีวิตของคนเราไม่ต่างกับถนน มีทางแยก ทางตรง ทางเลี้ยว พอเราเดินทางมาถึงจุดหนึ่ง ความสนุกกลับไม่ใช่การไปให้ถึงเป้าหมาย แต่เป็นการเก็บเกี่ยวเรื่องราวระหว่างทาง และถ้าหากได้เพื่อนร่วมทางที่รู้ใจก็ยิ่งดี จะได้ชวนกันไปค้นหาแรงบันดาลใจที่ไม่ถูกจำกัดอยู่กับโลกใบเดิม“ การเดินทางโดยรถไฟกลายเป็นสิ่งใหม่สำหรับเรา ทั้งที่อยู่คู่กับคนไทยมากว่า 120 ปี เพราะเราอยากมีประสบการณ์แบบ STAYCATION ที่ได้พักผ่อนไป ทำงานไป และ “เขาเต่า” ดูจะเป็นจุดหมาย ที่เหมาะกับการเดินทางครั้งนี้ เพราะสงบเงียบและมีจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ให้เราหยุดแวะตามรายทาง เราตัดสินใจนั่งรถไฟไปลงที่สถานีหัวหิน ด้วยรถไฟชั้น 3 ขบวน 261 “กรุงเทพฯ-สวนสนประดิพัทธ์” เป็นรถไฟดีเซลรางแบบธรรมดา ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 9.20 น. ถึงหัวหินเวลา 14.15 น. ค่าตั๋วรถไฟคนละ 44 […]

Thailand Gastronomy